Skip to main content

รายการตอบโจทย์ ทางสถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอส เมื่อวันศุกร์ 3 กรกฎาคม 2558 ได้เชิญ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง และ โชคทวี พรหมรัตน์ ทีมงานทีมชาติไทยมาเปิดอกเคลียข้อข้องในหลายประเด็น

พิธีกร : รู้สึกอย่างไรกับคำว่า "ทำนาบนหลังคน" ?

เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง : ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไร นักฟุตบอลก็เล่นเต็มที่ ทีมงานก็ทำงาน ก็ไม่รู้ความหมายของ "ทำนาบนหลังคน" (ที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้)

พิธีกร : ในช่วงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่ประเทศสิงคโปร์ ได้มีการติดต่อสื่อสาร และมีการวางแผนการเล่นอย่างไรกันบ้าง ?

เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง : ตอบบอกว่า ก่อนไปเราต้องเป็นแชมป์ และด้วยภารกิจ นายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้มอบหมายให้ทีมงานรับผิดชอบการแข่งขัน 3 รายการ คือ ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย, กีฬาซีเกมส์ และ โอลิมปิก ซึ่งจริงๆ ผมรับงานแค่ชุดเดียวด้วยซ้ำ แต่ด้วยความเป็นห่วงทีมชาติไทย ซึ่งในตอนแรกมีทีมงานสตาฟโค้ช รวม 4 คน โค้ชโชค โค้ชรุ่ง โค้ชจัก และเจ้าหน้าที่อีก 1-2 คน แต่พอรับผิดชอบ 3 ชุด มีทีมงานเพิ่มขึ้นประมาณ 12-16 คน ก็ต้องหาคนเข้ามาเพิ่ม

เราตั้งใจว่า พี่โก้ เป็นหัวหน้าโค้ชไปอยู่แล้ว แต่มันก็มีกระแสก่อนไปแข่งขัน ที่ว่าตกลงทีมชาติไทย จะให้ความสำคัญกับอะไร ระหว่างกีฬาซีเกมส์ กับ การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย 

บังเอิญ เวียดนาม มาขอเลื่อนการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กับทีมชาติไทย ก่อนกีฬาซีเกมส์ ในช่วงกีฬาซีเกมส์ มอบหมายให้โค้ชโชคไป เนื่องจากไม่มีเวลาไปคุมซีเกมส์ เพราะทีมชาติชุดใหญ่มันยังไม่กลมกล่อม โดยจะให้ชุดซีเกมส์ จากชุดใหญ่ ที่อายุไม่เกิน มาช่วยโชค ทั้งหมด ไม่ต้องเป็นห่วง นั่นคือเราคุยกันก่อน ส่วนผู้เล่น 11 คนแรก เดี๋ยวเรามาคุยกัน เราคุยกันก่อนเกมทุกเกม แต่ในหน้างานโชคจะสลับเปลี่ยนยังไงแล้วแต่สถานการณ์ แต่ทุกเกมเราจะทำงานกันตลอด โดยในช่วงพักครึ่ง ถ้าสามารถออนไลน์ให้ข้อมูล โดยจะมีการสื่อสารระหว่างพี่โก้ กับโชค ตลอดเวลา แต่ในหน้างาน โชค เขาตัดสินใจเองทั้งหมด

พิธีกร : ในระหว่างเกม โค้ชซิโก้ ให้โค้ชโชค ตัดสินใจยังไงบ้าง ?

โชคทวี พรหมรัตน์ : อย่างที่บอก ก่อนเกมการแข่งขัน 1 วัน เราจะคุยกันก่อน โดย 11 ตัวจริง ก็จะไม่หนีกันมาก

พิธีกร : แปลว่า ทั้งสองทีมช่วยกันเลือกตัวผู้เล่น ?

เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง : ไม่ใช่แค่ 2 คน แต่เป็น 2 ทีม ทางฝั่งที่อยู่ประเทศไทย ก็มีพี่โก้ มีทีมงาน ทางฝั่งสิงคโปร์ ก็มีโค้ชโชค และทีมงาน ร่วมถึงนักฟุตบอลบางคน อย่างกัปตันทีม มาช่วยกันวางแผนว่าจะใช้งานตัวผู้เล่นอย่างไร โดยไม่ให้นักฟุตบอลช้ำ ในการแข่งขันต่อเนื่อง 7 เกม ต้องสับเปลี่ยนหมุนเวียนอย่างไร ก็วางแผนร่วมกัน

พิธีกร : เรื่องการแบ่งเงิน แชมป์ ซีเกมส์ ที่มีเรื่องกันมากมาย ตอนนี้เป็นอย่างไรคะ ?

โชคทวี พรหมรัตน์ : เรียบร้อย ลงตัว ไม่มีปัญหา ผมบอกน้องๆ ว่าอย่าไปใส่ใจเยอะ เรามาทำงานทีมชาติแล้ว พวกนั้นเป็นผลตอบแทน ผลกำไรมากกว่า อย่างเมื่อก่อนพวกผมเล่น บางทียังไม่ค่อยมีอะไร แต่เราก็อยู่กันได้จนถึงทุกวันนี้ เราสอนน้องๆ ทุกคนว่า เรื่องเงินมันสำคัญก็จริง แต่ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต โดยถ้าคุณทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี แล้วคนชื่นชม อันนั้นมีความสุขมากกว่า

เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง : เรื่องนี้มันมีปัญหามาตั้งแต่เมื่อเนปิดอว์ (เมียนมาร์) ครั้งนั้นเราปล่อยให้เด็กจัดสรรกันเองในตอนแรกก็เกิดปัญหา เพราะพี่โก้ ไปอบรมโค้ช เอ-ไลเซ่น ก็เรียกอุ้ม (ธีราทร บุญมาทัน) มาเคลีย ก็เรียบร้อยไม่มีปัญหาเสร็จไปด้วยดี หลังจากนั้นเราก็มี เอเชียนเกมส์, เอเอฟเอฟ คัพ ซึ่งหลังจากนั้นก็มีมาตรฐาน ว่าใครทำตำแหน่งอะไร ซึ่งในซีเกมส์คราวนี้ ก็ให้อำนาจตัดสินใจกับ โค้ชโชค ในการบริหารจัดการ ซึ่งข้อกังวลเรื่องการแบ่งเงิน อาจเป็นก้อนหินถามทาง ประมาณว่าอย่าให้มีปัญหานะ

พิธีกร : ตอนนี้ยืนยัน ไม่มีปัญหาแตกแยก เหมือนที่เป็นข่าว ?

เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง : ไม่มีแน่นอน หลังจากประสบความสำเร็จมา ทุกคนก็มองหลายมุม อย่างเช่น พี่โก้ แย่งซีน โค้ชโชคทวี ซึ่งตั้งแต่กลับมาจากไต้หวัน ยังไม่เคยออกไปโชว์ตัวกับโชคทวีสักครั้ง ก็ให้โชคทวี ไปรับเงิน ไปออกข่าว ไม่เคยไปออกหน้า นี่เป็นรายการแรก (รายการตอบโจทย์) 

พิธีกร : กับกระแสเรื่องนี้ ทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกว่าเดิมหรือไม่ ?

โชคทวี พรหมรัตน์ : ผมใจนักเลงพอ พี่ก็คุย ผมก็คุย ถ้าเราคุยกันก็ไม่มีอะไรมาก อย่างที่บอก ทำความสุขให้คนไทย 60 ล้านคน แต่มาเกิดเรื่องแบบนี้มันไม่ใช่ พวกผมอยู่กันมานานแล้ว เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องภายนอก ถ้าเอามาใส่ใจผมว่าเราเดินไปไม่ได้

เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง : ยังไม่ได้เคลีย เพราะไม่มีอะไรจะเคลีย ไม่มีปัญหากัน

พิธีกร : ตอนนี้ต้องวางแผน ปรีโอลิมปิกอย่างไร ?

โชคทวี พรหมรัตน์ : วันก่อนก็ประชุมกัน พี่โก้ จัดวางระบบให้ผมทำทีมโอลิมปิกเต็มที่ ไม่ต้องกังวลชุดอื่น ซึ่งชุดใหญ่ก็มีโค้ชใกล้รุ่ง ถ้าเตรียมทีมอย่างนี้ก็วางแผนไปเฉพาะชุด ผมก็ทำงานได้เต็มที่

พิธีกร : จะมีปัญหาในการเรียกนักเตะจากสโมสรต่างๆ มาเล่นให้กับทีมชาติหรือไม่ ?

เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง : คือวันนี้เราได้อานิสงส์ จากนักบอลจากสโมสร พี่เข้ามา 2 ปี พี่ได้รับความอนุเคราะห์จากทุกสโมสร ชลบุรี เอฟซี, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด, สุพรรณบุรี เอฟซี, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี, บีอีซี เทโรศาสน, แบงค็อก เอฟซี, นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ทุกคนให้ความเอ็นดู ฉะนั้นพี่ต้องขอบคุณสโมสร ที่ปล่อยเด็กให้มาเล่น ก็อาจมีกระแสมาว่า พี่โก้ใช้งานจนกรอบ จริงๆ พี่ต้องบอกตามตรงว่ามันเป็นความเสียสละของน้องๆ ทุกคน คือน้องๆ ทุกคนอยากติดทีมชาติ อยากเล่น พี่ก็อยากพาทีมให้ชนะ บางคนอาจจะล้า อาจจะกรอบ แต่เวลาแข่งขันพี่ก็จะดูว่าคนไหนที่ไม่สมบูรณ์ก็จะไม่ให้ลง นอกเสียจากไม่บอกเรา อย่างเช่น เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ไม่สบายเป็นไข้ ไม่บอก แต่อยากลงเล่น ก็ต้องโดนเปลี่ยนตัวออก แท็กติกก็เสียไป ก็ไม่ว่ากัน เพราะทุกคนอยากเล่นทีมชาติ ทีนี้กลับมา นักฟุตบอลทุกคนต้องรู้จักฟื้นฟูตัวเอง บางครั้งกลับจากฉลอง สโมสรต้องการใช้งานเลย ก็ต้องอยู่กับโค้ชของสโมสร ต้องดูนักเตะว่าสมบูรณ์ขนาดไหน

พิธีกร : แล้วใช้จิตวิทยา เพื่อให้เด็กเล่นเพื่อทีม จริงหรือเปล่า ?

เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง : ทุกวันนี้ พี่โก้ ไม่สามารถบังคับใครได้ เพราะว่าวันนี้เป็นการเสียสละของน้องๆ นักฟุตบอล ถามว่าทีมนี้เป็นทีมของใคร เป็นของพวกเราทุกคน ทีมชาติ ถ้าคุณมาเล่นทีมชาติ แล้วไม่วิ่ง ก็ให้คนอื่นมา แล้วคุณต้องการเห็นชัยชนะมั้ย พี่ไม่มีอะไรจะบอกว่า มาแล้วจะได้อะไรกลับไป ถ้าคนไหนไม่เคยได้แชมป์ ซีเกมส์ ถือว่าไม่ผ่านเกณฑ์ทีมชาติชุดใหญ่นะ ส่วนใหญ่จะบอกน้องๆ ว่าก้าวแรกของทีมชาติ ก็คือชุดซีเกมส์ ถ้าคุณยังไม่ได้แชมป์ ถือว่ายังไม่สมบูรณ์แบบ

ฉะนั้นการติดทีมชาติ ทุกคนก็อยากเล่น บางคนเจ็บเรื้อรังมาจากสโมสร อย่าง ชาริล ชัปปุยส์ ก็เจ็บเรื้อรังจากสโมสร แต่มาเล่นทีมชาติก็วิ่งปร่อ แต่พอได้แชมป์กลับมา หายไปผ่าตัดอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ กลายเป็นว่าทีมชาติใช้งานหนัก ตัวนักฟุตบอลก็ไม่บอกเรา แล้วก็อยากเล่น พอเจ็บกลับไป ก็หาว่าทีมชาติใช้งานกรอบ ใครจะบ้าเอานักเตะขาพิการลงไปเล่น จะโดนไล่กลับบ้านด้วย ถ้ามาพิการแล้วถ่วงคนอื่น ก็ไล่กลับบ้านเลย

ฉะนั้นวันนี้เราทำทีมชาติ ไม่มีเจตนาใช้งานพวกเขาจนกรอบ ถ้าเห็นว่ากรอบ ก็ไม่ต้องส่งมา เพราะส่งมาแล้ว มันก็เป็นผลกระทบ

พิธีกร : โค้ชตุ๊ก (ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน) อยากเข้ามาทำงานกับทีมเยาวชน คิดเห็นอย่างไร ?

โชคทวี พรหมรัตน์ : ในเรื่องนี้ไม่มีคอมเม้น เพราะตอนนี้อย่างที่บอกไว้ ขอโฟกัสกับการแข่งขันปรีโอลิมปิกก่อน อย่างอื่นไม่มีคอมเม้น

พิธีกร : จากวันแรกที่ทำทีมชาติ จนมาถึงวันนี้ เราสามารถมองไปถึงฟุตบอลโลก และโอลิมปิดรอบสุดท้าย ได้หรือไม่ กับระบบที่วางไว้ ?

เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง : ต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป อย่างที่เคยบอกไว้ก่อนเข้ามาว่าจะต้องอยู่ในสภาพเดิมตอนนั้นเป็นซากศพ กลับมาสภาพเดิมให้ได้ คือต้องกลับมาเป็นแชมป์ซีเกมส์ ตั้งแต่ ซีเกมส์ เนปิดอว์ แล้วต่อเนื่องด้วย ซีเกมส์ สิงคโปร์ ชุดใหญ่ก็ต้องเป็นแชมป์ เอเอฟเอฟ คัพ เอเชียนเกมส์ ต้องได้อันดับ 4 เป็นอย่างน้อย ตอนนี้ได้หมดแล้ว คือกลับมาอยู่ที่เดิม แต่มันยังไม่ไปไกลอย่างที่หลายคนคิด ฉะนั้นจะทำอย่างไรให้ทีมงานชุดนี้อยู่กันอีก 3-4 ปี นักฟุตบอลอยู่ด้วยกันอีก 5-10 ปี เพราะเราต้องการให้ผ่านเข้ารอบ 3 ของฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย แล้วถ้าโควต้า ของเอเชียนคัพ มันจะอัตโนมัติ ก็คือ ถ้าผ่านเข้า 12 ทีม เอเชียนคัพ เราได้เล่นแน่นอน ranking มันก็จะขึ้นโดยอัตโนมัติ พี่ก็เคยบอกกับสื่อไปแล้วว่า ต้องการกลับไปเป็นเบอร์ 6 ของเอเชียให้ได้ นี่คือสิ่งที่พี่วางไว้ 

ทุกวันนี้พยายามเต็มที่กับทุกเนื้อหารายละเอียด บอลลีกเราดี เราก็ได้อานิสงฆ์กับนักฟุตบอล ทุกวันนี้เราอยากทำให้เป็นระบบสากล คือ 2 สัปดาห์ มาถึงต้องใช้ได้เลย ตอนนี้เรากำลังทำ โดยเคยบอกก่อนหน้านี้ต้องเข้าใจแท็กติกวิธีการเล่นก่อนนะ แต่เข้าถ้าเข้าใจแล้วกลับไปสโมสร กลับมาหาพี่แค่ 1-2 สัปดาห์ ก็ใช้ได้เลย พี่แค่ทบทวนเฉยๆ เราพยายามทำให้เป็นระบบสากล ไม่ไปรบกวนนักเตะสโมสรมาก เราไม่ต้องการมีปัญหากับสโมสรเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของเขา ทีมชาติไม่ได้มีอะไรเลย

อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอน การท่าเรือ เอฟซี (มิถุนายน - กันยายน 2017)อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยอดีตกองหน้าทีมชาติไทย
ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน ทีมชาติไทย ชุดอายุไม่เกิน 23 ปี (แต่งตั้ง 25 สิงหาคม 2564) อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอน เชียงใหม่ เอฟซี (เมษายน 2017) อดีตผู้ช่วยผู้ฝึกสอน…
ทีมชาติไทย* สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประกาศเปลี่ยนโลโก้ ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ในเดือนธันวาคม 2560* โลโก้ ทีมฟุตบอล…